Archive for the ‘บทความธุรกิจเสื้อผ้า’ Category

ฤดูขายและช่วงเวลางานขายเสื้อผ้า

กล่าวสวัสดีเพื่อนๆ หลังจากที่หายหัวไปนาน (อิ อิ!)
และแล้วฤดูงานตัดเย็บเสื้อผ้าก่อนสงกรานต์อันมหาโหดก็จบลงด้วยความเรียบร้อย (รึเปล่า! ไม่แน่ใจ -__-!!!)
สำหรับผู้เขียนแล้วรอดมาได้เพราะโรงงานผ้าหยุดงานไปเรียบร้อยแล้ว ก็เลยมีข้ออ้างในการปฏิเสธลูกค้า อิอิอิ
เล่นเอานอนวันละ 3-4 ชั่วโมงนานติดกันร่วม 2 อาทิตย์เห็นจะได้

Picture 282

(รูปประกอบไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเนื้อหาเล้ยยย    จริงๆ -__-!!!   กลัวอ่านแล้วจะง่วงกันเลยหาภาพมาคั้น  แค่นั้นแหละ)
ธุรกิจขายเสื้อผ้าหรือตัดเย็บเสื้อผ้านั้นก็คงเหมือนๆ กับอาชีพหรือสินค้าประเภทอื่นๆ ที่มีจังหวะขึ้นลงๆ ขายดีบ้าง ขายไม่ดีบ้างก็ว่ากันไปตามฤดูขายของสินค้าประเภทนั้นๆ งานขายเสื้อผ้าเองก็มีวงจรการขายเป็นฤดูไม่ต่างกัน

Picture 223

สำหรับพ่อค้าแม่ขายเสื้อผ้าอย่างเราๆ ท่านๆ นั้นการเตรียมการสำหรับฤดูขายเสื้อผ้าเสื้อยืดนั้นก็คงจะเป็นเรื่องที่ปกติไปเสียแล้ว แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังเริ่มขายหรือกำลังคิดจะขายเสื้อผ้านั้นการรู้จักวงจรฤดูการขายของงานเสื้อผ้าก็จะทำให้เพื่อนๆ วางแผนการขายได้ดีขึ้น มีสินค้าขายอย่างต่อเนื่องไม่เสียโอกาสการขาย

Untitled-1

สำหรับช่วงฤดูขายเสื้อยืดหรืองานเสื้อผ้าส่วนใหญ่ (เช่น เสื้อยืด เสื้อคอโปโล เสื้อกล้าม หรือเสื้อแฟชั่นอื่นๆ) แล้วจะมี 3 ช่วงเวลาด้วยกันที่ขายดิบขายดีแบบชนิดเทน้ำเทท่า และก็จะส่งผลถึงงานตัดเย็บด้วยเล่นกัน นั่นก็คือช่วงเมษายนก่อนสงกรานต์ ช่วงเทศกาลวันแม่ และช่วงเดือนธันวาคมวันพ่อแห่งชาติ
ส่วนช่วงฤดูที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็คือฤดูฝนที่การขายเสื้อผ้าจะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดตามพฤติกรรมของผู้บริโภค และก็ส่งผลถึงส่วนตัดเย็บที่น้อยลงตามไปด้วย

Picture 281
หากเพื่อนๆ อยากมีสินค้าไว้ขายช่วงฤดูสงกรานต์อย่างต่อเนื่อง ก็ควรวางแผนการผลิตตัดเย็บเสื้อผ้าไว้ขายล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนเพราะร้านรับตัดเย็บเสื้อยืดส่วนใหญ่จะงานแน่นมากขึ้นตามลำดับก่อนวันสงกรานต์ หากคาดหวังหาร้านตัดเย็บเสื้อยืดในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนใกล้สงกรานต์หรือใกล้ช่วงเทศกาลนั้นเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง

Picture 283

ปล* จริงๆ แล้วก็ไม่ตายตัวเสมอไปสำหรับบางท่านก็อาจจะขายเสื้อผ้าได้ดีตลอดปี แต่เชื่อเถอะว่าส่วนใหญ่ก็ใกล้เคียงกับสถิติของผู้เขียน ^_^

 

ด้วยความเคารพและเป็นห่วงเพื่อนๆ ทุกคน

โอ

000-2021-01-16-ราคา-Cotton32

 

บริการรับตัดผ้ายืดสำหรับทำเสื้อยืด

แก้ไขล่าสุด 16/01/2021

ช่วงนี้ทางร้านมีปัญหาด้านกำลังผลิต จึงขออนุญาตปิดรับงานตัดเย็บเสื้อยืดทุกประเภท

——

บริการรับตัดผ้ายืด Cotton, TC, TK หน้าผ้ากว้าง 36 นิ้ว สำหรับทำเสื้อยืดคอกลม คอวี ตามแพทเทิ่นของลูกค้าหรือเสื้อผ้าแฟชั่นทั่วๆไป โดยเหมาะสำหรับร้านเสื้อที่มีร้านเย็บเสื้อประจำแต่ไม่มีร้านตัดผ้า (หรือร้านโต๊ะตัดงานเยอะตัดไม่ทัน) ก็สามารถใช้บริการตัดผ้าของเราได้ครับ ทั้งนี้ทางร้านเรายังมีบริการทำแพทเทิ่นสำหรับเสื้อผ้าแฟชั่นอีกด้วย (โดยราคาค่าทำแบบแพทเทิ่นนั้นแยกต่างหากไม่รวมกับราคาบริการตัดผ้า)

IMG_0347

 

หรือหากท่านกำลังมองหาโต๊ะตัดผ้าพร้อมทั้งร้านรับเย็บเสื้อยืด โปโล และเสื้อผ้าแฟชั้นในราคาสมเหตุสมผลก็สามารถสอบถามกับทางเราได้ครับ

000-2021-01-16-ราคา-Cotton32

อยากทำธุรกิจค้าขายเสื้อยืดต้องทำอย่างไรบ้าง

“อยากทำธุรกิจค้าขายเสื้อยืดต้องทำอย่างไรบ้าง?” ได้ยินคำถามนี้ทางโทรศัพท์จากน้องท่านหนึ่ง

ได้แต่ทำตาปริ๊บๆ เพราะเป็นคำถามที่กว้างพอๆกับอ่าวไทย แต่ไหนๆ ถามมาแล้วไม่พูดอะไรสักหน่อยก็ดูจะผิดวิสัยผู้เขียน

จะเรียกว่าตอบ ก็คงจะดูเป็นทางการเกินไปเพราะผู้เขียนก็ไม่ใช่ผู้รู้เลยไม่ค่อยจะรู้ว่าถ้าอยากทำธุรกิจค้าขายเสื้อยืดให้สำเร็จต้องทำอย่างไรบ้าง ถ้ารู้ผู้เขียนคงรวยไปแล้วหละ! เนาะ 555

เอาเป็นว่าเล่าประสบการณ์สู่กันฟังดีกว่า เพราะผู้เขียนก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นสูตรสำเร็จ!

เอาเป็นว่าประเด็นสำคัญหลักๆ ที่ผู้เขียนอยากจะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังและอยากให้เพื่อนๆ ทำความเข้าใจก็มีอยู่ไม่กี่ข้อ เช่น

1.ให้เริ่มธุรกิจเสื้อผ้าแบบคนจนทุนน้อย ถึงแม้ว่าหลายๆท่านจะมีเงินถุงเงินถังหรือเงินสำหรับลงทุนเยอะแยะก็ตามที ผู้เขียนก็ยังอยากจะให้เพื่อนๆ เริ่มด้วยทุนทรัพย์น้อยๆ ลงทุนด้วยความระมัดระวังเพราะช่วงเริ่มต้นหลายๆ ท่านยังจับกระแส, กลุ่มลูกค้าหรือความต้องการของลูกค้าไม่ได้ ลงทุนเยอะไปก็ทุนจม สู้ลงทุนน้อยๆ ค้าขายอย่างฉลาดอาศัยซื้อมาขายไป จนกว่าจะจับกระแสหรือกลุ่มลูกค้าได้ค่อยลงทุนทีละเยอะๆ ก่อนที่เพื่อนๆ จะพูดกันถึงการผลิตหรือจ้างตัดเย็บเสื้อยืดนั้นควรจะมีตลาดที่แน่นอนก่อน หรือที่กลุ่มลูกค้าชัดเจนอยู่แล้วถึงจะค่อยเริ่มหาจ้างตัดเย็บเสื้อผ้าเพื่อเสริมเข้าไปในรายการขายที่มีอยู่แล้ว

Picture 1922.ช่องทางการขายควรจะมีมากกว่าช่องทางเดียว เช่นเปิดร้านขายควบคู่ไปกับการขายออนไลน์ การค้าในปัจจุบันนั้นไม่ใช่มีเพียงมิติเดียวแต่มีมิติเสมือนที่เราๆ ท่านๆ สร้างกันขึ้นมา นั่นก็คือโลกจริงๆ ตลาดจริงๆ ที่เราค้าขายกันแบบเห็นหน้าและโลกไซเบอร์หรืออินเตอร์เน็ต และหากอยากจะค้าขายให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดเสื้อผ้านั้นก็ต้องรู้จักวางแผนการขายให้ควบคู่กันทั้ง 2 มิติ เพราะทั้ง 2 มิติมักจะอยู่ตรงข้ามกันเสมอ เช่น ฤดูฝนที่ขายในตลาดไม่ค่อยดีเพราะคนไม่ชอบออกบ้านก็จะทำให้ตลาดออนไลน์คึกคักขึ้นมา ในด้านตรงข้ามช่วงฤดูท่องเที่ยวที่ตลาดออนไลน์เป็นช่วงขาลงเพราะผู้ซื้อมักจะนิยมเดินเล่นที่ตลาดมากกว่าที่จะจับเจ่าอยู่หน้าจอคอมเป็นต้น คงจะดีไม่น้อยที่เรามีแผนการขายครบทั้ง 2 มิติ

Picture 2233. ต้องเข้าใจศักยภาพและรูปแบบการขายในตลาดที่เราพยายามจะสร้างจุดยืนหรือยี่ห้อของเรา เช่น หากยี่ห้อเราถูกสร้างมาเพื่อตลาดระดับล่างที่เน้นปริมาณการขายก็ควรจะขายตลาดระดับล่างที่เน้นปริมาณจึงจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ หรือตลาดที่ถูกสร้างมาเพื่อตลาดระดับบนที่เน้นเรื่องความพิถีพิถันและเนื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์จำพวก Supersoft ต่างๆนาๆ หรือตลาดระดับกลางที่ราคาพอสมเหตุผลแต่รูปแบบเปลี่ยนแปลงไปตามสมัยจำพวกเสื้อผ้าแฟชั่น ซึ่งก็ต้องดูตามศักยภาพและความถนัดของแต่ละบุคคล

Picture 2524. เอิ่มมม! -__-!!! ยังคิดไม่ออก….   ไว้จะมาบอกอีกที 555

ด้วยความเคารพเพื่อนๆ ทุกคน

โอ

000-2021-01-16-ราคา-Cotton32

 

ความสำคัญของ Pattern แบบเสื้อกับงานเสื้อผ้าแฟชั่น

ขึ้นชื่อว่าแบบเสื้อนั้นสำหรับงานเสื้อผ้าแล้วถือว่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเลือกผ้าที่มีคุณภาพเลยทีเดียว

แบบโครงเสื้อหรือ Pattern นั้นไม่ใช่แค่การวาดลวดลายบนกระดาษธรรมดาๆ ครับ แต่ Pattern แบบเสื้อนั้นคือการแปลงจากเสื้อผ้าทรงต่างๆ ที่พวกเราใส่อยู่ให้ออกมาเป็นชิ้นส่วนแผนเรียบที่มีทั้งการคำนวณการหดของผ้า, การสูญเสียผ้าจากการเย็บต่างๆ เพื่อให้งานเสื้อที่จะทำออกมาพอดี สวยงามและตรงสรีระกับความตั้งใจของผู้สวมใส่ที่สุด

Picture 235

หากเพื่อนๆ อยากจะทำงานเสื้อผ้าแล้ว (โดยเฉพาะเสื้อผ้าแฟชั่น) การมีองค์ความรู้ด้านแบบเสื้อหรือ Pattern ไว้บ้างนั้นนั้นก็ดีไม่น้อยครับ นัยว่าเป็นประโยชน์สำหรับการผลิตเสื้อผ้าออกมาจำหน่าย ถึงแม้ว่าร้านรับตัดเย็บเสื้อผ้าส่วนใหญ่จะมีแบบเสื้อ Pattern ไว้บริการ แต่ก็เป็นแบบเสื้อ Pattern ทั่วๆไปตามท้องตลาด หากต้องการแบบเสื้อที่สวยงามและมีเอกลัษณ์การลงทุนทำแบบเสื้อ Pattern ขึ้นมาเองนั้นเป็นสิ่งที่ผู้เขียนอยากจะแนะนำครับ เพราะการลงทุนสร้างแบบเสื้อ Pattern ขึ้นมานั้นเป็นการสร้างเอกลักษณ์ สร้างลายเซ็นให้กับยี่ห้อของเพื่อนๆ นั่นเอง และหากจะสังเกตดีๆ เสื้อผ้ายี่ห้อดังๆ ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันมักจะมีจุดต่างที่ไม่ซ้ำกันไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งเพราะผู้ผลิตหรือเจ้าของยี่ห้อนั้นๆ พยายามสร้างความต่างและเอกลักษณ์ให้กับยี่ห้อของตนเอง

Picture 230 Picture 235

วิธีเย็บเสื้อยืดคอกลม

การเย็บเสื้อยืดคอกลมนั้นจัดได้ว่าเป็นพื้นฐานของงานเย็บอุตสาหกรรมก็ว่าได้

โดยขั้นแรกหลังจากที่เราตัดผ้าลำตัวด้านหน้า 1 ชิ้น, ลำตัวด้านหลัง 1 ชิ้น, แขน 2 ชิ้นและชิ้นคอ 1 ชิ้นแล้ว

ขั้นที่ 1 คือการเย็บบริเวณไหล่ทั้ง 2 ด้าน, โดยให้ด้านหน้าผ้ากระกบติดกัน

Picture 155

Picture 157

Picture 156

ขั้นที่ 2 นั้นคือการเย็บชิ้นคอ

บางท่านก็เย็บคอเตรียมไว้ก่อน อันนี้แล้วแต่ถนัด หากเป็นงานภาคอุตสาหกรรมที่แข่งกับเวลาจริงๆ ก็ต้องเตรียมชิ้นคอไว้ให้เรียบร้อยเสียก่อนเพื่อความรวมเร็วในการทำงาน ส่วนเรื่องของวัสดุว่าจะใช้อะไรทำชิ้นคอนั้นก็ว่ากันไปตามลักษณะงานว่าจะใช้ผ้าในตัวหรือใช้ซก (ผ้าที่เป็นยืดๆ) ก็ดีกันไปคนละแบบ

Picture 153

Picture 158

Picture 159

เย็บคอติดกับลำตัว

Picture 160

แล้วกลับเสื้อจากด้านในมาด้านนอกเพื่อเตรียมตัวทำงานในขั้นต่อไป

Picture 161

แล้วกลับเสื้อจากด้านในมาด้านนอกเพื่อเตรียมตัวทำงานในขั้นต่อไป

ขั้นที่ 3 : กดเย็บคิ้วรอบคอเพื่อความเรียบร้อยและความคงทน โดยขั้นตอนนี้นั้นบางร้านก็ทำ บางร้านก็ไม่ได้ทำซึ่งก็แล้วแต่จุดประสงค์

Picture 162

โดยขั้นตอนที่ 3 นี้ไม่ตายตัวว่าจะทำก่อนหรือหลังจากการเย็บลาลูกโซ่บริเวษคอ ซึ่งก็ว่ากันไปตามความถนัดและเคยชิน

Picture 163

ตัดเศษด้ายเพื่อความเรียบร้อย

Picture 164

** ค่อยดูเป็นเสื้อขึ้นมาหน่อย -__-!!! **

ขั้นตอนที่ 4 : การเย็บลาลูกโซ่บริเวณคอ ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีก็แล้วแต่ร้าน เพราะหากต้องการลดต้นทุนก็จะไม่ทำ แต่ส่วนใหญ่ก็ทำเพื่อความสวยงามและเรียบร้อยของงานเย็บ

Picture 165

** เย็บด้วยจักรเข็มคู่ลาลูกโซ หรือสุดแท้แต่จะเรียกกัน (มีหลายชื่อเหลือเกิน -__-!!!)**

Picture 166

** โดยเริ่มเย็บจากตะเข็บไหล่เสื้อด้านหนึ่งผ่านคอด้านหลังจนมาสุดที่ไหล่อีกด้านหนึ่ง **

Picture 167

** แล้วจึงกลับเสื้อเพื่อความเรียบร้อย **

Picture 168

** ค่อยดูเป็นเสื้อขึ้นมาอีกหน่อย **

Picture 169

** การใช้ผ้ามาเย็บบริเวณคอ ลาลูกโซ่นั้นจะเป็นผ้าลักษณะม้วนวนยาวติดกัน โดยการตัดเฉียง **

ขั้นตอนที่ 5 : การเย็บแขนเสื้อทั้ง 2 ข้างติดกับลำตัว

Picture 170

** โดยเริ่มจากการลาแขนเสื้อด้วยการพับปลายแขนแล้วใช้จักรลาโรยหรือลาชาย (สุดแท้แต่จะเรียกเถอะ -__-!!!) **

Picture 171

Picture 172

Picture 173

Picture 174

** เย็บแขนติดกับลำตัวโดยประกบชิ้นแขนเข้ากับส่วนตัวให้ด้านหน้าประกบกับด้านหน้าแล้วจึงทำการเย็บ **

Picture 175

Picture 176

ขั้นตอนที่ 6 : เย็บโพ้งไล่ลงมาตั้งแต่ปลายแขนเสื้อผ่านตะเข็บด้านข้างลงมาจนสุดลำตัว ด้วยจักรโพ้ง

Picture 177

Picture 178

Picture 179

ขั้นตอนที่ 7 : กลับมาที่จักรลาอีกครั้งเพื่อลาชายเสื้อก็เป็นอันจบขั้นตอนการเย็บเสื้อยืดแบบคร่าวๆ

Picture 180

Picture 182
หากมีโอกาสก็คงจะได้ทำเป็นวีดีโอภาพเคลื่อนไหวมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในโอกาสต่อไปครับ
สำหรับบางท่านที่ชำนาญเป็นอย่างดีแล้วก็คงจะดูเป็นเรื่องเรียบง่าย แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยทำแต่อยากจะทำงานเย็บเสื้อผ้า ผู้เขียนก็ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยใจจริงครับ และก็หวังว่าบทความไม่ค่อยจะได้เรื่องชิ้นนี้จะจุดประกายอะไรได้บ้าง เพราะหากสถานการณ์ภาคแรงงานของอุตสาหกรรมการตัดเย็บเสื้อผ้ายังเสียสูญอยู่แบบนี้ต่อไปในอนาคตคงนึกไม่ออกว่าจะเป็นยังไง แม้กระทั่งผู้เขียนเองก็ยังต้องใช้ช่างเย็บชาวเวียดนามเป็นแรงงานหลัก


นอกเรื่องหน่อยหนึ่ง!


แรงงานภาคอุตสาหกรรมการตัดเย็บเสื้อผ้าในปัจจุบัน 2558 ในเขต กทม นั้นกว่าครึ่งเป็นชาวเวียดนามที่มีลักษณะพิเศษคือมีความชำนาญด้านงานเย็บเสื้อผ้าติดตัวมาจากบ้านเกิด โดยเฉพาะชาวเวียดนามที่มีจากภาคกลาง พวกเขามีทั้งความอดทน ความมุ่งมั่น และความอ้อนน้อมถ่อมตนต่างจากชาวพม่าหรือกัมพูชาที่ค่อนข้างรั้นและฉลาดแกมโกง ลักษณะพิเศษของชาวเวียดนามแบบนี้เป็นลักษณะที่ผู้เขียนอิจฉาและเฟ้อฝันว่าชาวไทยเราคงจะมีความสามารถพิเศษแบบนั้นติดตัวไว้ในแต่ละทุกหมู่บ้าน

 

ด้วยความเคารพเพื่อนๆ ทุกคน

โอ

000-2021-01-16-ราคา-Cotton32

เลือกซื้อผ้ายืดแถววัดสน (สุขสวัสดิ์ซอย 35)

หากพูดกันถึงเรื่องปัจจัยความสำคัญหลักของธุรกิจเสื้อผ้าแล้วก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเนื้อผ้า ที่เป็นปัจจัยหลักที่บ่งบอกถึงคุณภาพและราคา ซึ่งผ้าเป็นต้นทุนหลักที่มีความสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้  หากเพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจหรือค้าขายเสื้อผ้าอยู่แล้ว หรืออยากจะทำธุรกิจเสื้อผ้า แล้วต้องการลดต้นทุนเพื่อประโยชน์ด้านการแข่งขันที่ดีขึ้นนั้นการเลือกซื้อผ้าที่เป็นวัตถุดิบหลักด้วยคุณภาพและราคาสมเหตุสมผลถือว่าเป็นข้อสำคัญครับ

แหล่งขายผ้าใน กทม เรานั้นมีอยู่หลายแหล่ง หลายแห่งสถานที่ซึ่งแต่ละที่นั้นขายผ้าต่างชนิดกันออกไป เช่นหากเพื่อนๆ อยากจะได้ผ้าสำหรับทำเสื้อเชิตก็ควรไปพาหุรัต (เขียนถูกไหมเนี่ยะ -__-!!!)

Picture 203

และถ้าหากเพื่อนๆ อยากซื้อผ้ายืดสำหรับตัดเย็บเสื้อยืดหรือเสื้อผ้าลำลองนั้น หนึ่งในสถานที่ที่ผู้เขียนอยากจะแนะนำคือ วัดสนหรือสุขสวัสดิ์ซอย 35 (จริงๆ ก็มีหลายที่แหละ เช่น แถวๆ สะแกงามหรือสุขสวัสดิ์ซอยอื่นๆ) แต่แถวๆ วัดสนนั้นดูจะไปง่ายที่สุดและมีรูปแบบการขายผ้าที่หลากหลาย เช่นบางร้านก็ขายปลีกเป็นกิโลสำหรับทำตัวอย่าง บางร้านก็มีวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานผ้าขายปลีกแยกชิ้น ต่างๆ นาๆ ว่ากันไปกันแต่ละร้าน อันนี้ต้องเดินดูกันเองถึงจะได้ร้านที่ถูกใจ โดยหลักแล้วก็จะขายผ้าคอตต้อนเบอร์ 20, คอตต้อนเบอร์ 32, TC, TK, ผ้ากีฬาตระกูลโพลีต่างๆ, ผ้ายืดคาเนโกะ ต่างๆนาๆ

Picture 201

Picture 202

Picture 204

เพื่อนๆ หลายท่านก็คงจะคุนเคยกับร้านผ้าแถวๆ วัดสนกันดีอยู่แล้วก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก หากแต่เพื่อนๆ ที่กำลังจะไปเลือกซื้อผ้าเพื่อมาทำงานนั้นผู้เขียนก็อยากจะให้เพื่อนๆ เลือกร้านดีๆ ครับจะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง

 

โดยร้านขายผ้าในซอยวัดสน (หรือสุขสวัสดิ์ 35) นั้นมีหลากหลายลักษณะการค้าขายและบริการ อาจจะดูเหมือนกันแต่ก็จะมีความต่างอยู่พอสมควร โดยกว่า 1 ใน 5 ข้างร้านค้าในวัดสนขายผ้าสต๊อกที่โละมาจากโรงงาน, 3 ใน 5 เป็นร้านค้าที่รับผ้ามาจากโรงงานอีกถอดหนึ่ง และจะมีแค่ 1 ใน 5 ของจำนวนร้านขายผ้าในซอยวัดสนเป็นร้านของโรงงานผลิตผ้าโดยตรง ซึ่งข้อแตกต่างเหล่านี้จะทำให้เกิดความแตกต่างด้านราคา, คุณภาพ และความต่อเนื่องของสินค้า

เช่น ถ้าซื้อผ้าจากร้านขายผ้าสต๊อกก็จะได้ราคาถูกลงมาหน่อย แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องสีในครั้งต่อไปเพราะมันจะไม่เหมือนกันอีกแล้ว ประมาณว่าหมดแล้วหมดเลย หากเพื่อนๆ ซื้อเพื่อไปใช้งานครั้งเดียวแล้วจบก็คงไม่ต้องเลือกถามร้านให้วุ่นวาย แต่หากเพื่อนๆ คิดจะทำงานต่อเนื่องก็ควรที่จะใส่ใจร้านผ้าที่เราไปซื้อตั้งแต่แรกเพื่อลดปัญหาความยุ่งยากในอนาคต

Picture 205

หากเพื่อนๆ หาร้านที่เป็นโรงงานผลิตโดยตรงนั้นดูจะยากซักหน่อย (เพราะทุกร้านก็บอกว่าตัวเองเป็นโรงงานผู้ผลิตซะหมด -__-!!! ก็คนเค้าอยากขายนี่เนาะ! ก็พูดหว่านล้อมไปเรื่อยแหละ) แต่ก็ใช่ว่าจะหายากซะทีเดียว โดยส่วนใหญ่แล้วร้านผ้าที่เป็นผู้ผลิตโดยตรงนั้นจะมีเอกลักษณ์หรือเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง เช่น Supersoft, dry… (อะไรซักอย่างนี่แหละ  จำไม่ได้  ขออภัย) เพื่อสร้างจุดขายให้กับตัวเองและราคาจะดูสมเหตุสมผล   ไม่แพงเวอร์และไม่ถูกสัส!   ซึ่งกว่าจะรู้ก็ต้องเดินดูและเปรียบเทียบราคาดูครับ

**ปล** หากเพื่อนๆ ท่านไหนที่พึ่งไปครั้งแรกหรือกกำลังจะไป  หากไปถึงแล้วให้ตรงเข้าวัดไปจอดรถเลยครับ เสีย 20 บาท จ่ายไปเถอะอย่าเสียดาย  เพราะที่จอดรถหายากมว๊วกกกกก! และไม่ต้องกลัวหิ้วไกลเพราะจะมีคนลากมาส่งให้ที่รถ

 

ด้วยความเคารพและเป็นห่วงเพื่อนๆ ทุกคน

โอ

000-2021-01-16-ราคา-Cotton32

ข้อดีและข้อเสียของผ้าถุงกลม Body Size และผ้าพับหน้าเดียว

โดยมากผ้ายืดที่ซื้อขายกันในตลาดสำหรับนำมาตัดเย็บทำเสื้อยืดนั้นแบ่งได้ 2 ลักษณะใหญ่ๆ คือผ้า

  1. ผ้าพับหน้าเดียว (ซึ่งจะแบ่งย่อยออกเป็นหน้ากว้าง 36, 37, 62 หรือ 74 นิ้วนั้นก็แล้วแต่ลักษณะการใช้งานและความคุ้มทุนของโรงงานที่จะทำออกมา) และ
  2. คือผ้าถุงกลมแบบพอดีตัวหรือเรียกกันทั่วๆ ไป Body Size ซึ่งหน้ากว้างของผ้าลักษณะนี้จะมีความกว้างตายตัวตามความกว้างรอบอกของเสื้อแต่ละไซร์

โดยผ้าพับสำหรับนำมาทำเสื้อยืดทั้ง 2 ลักษณะนี้ก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป

เช่น

ข้อดีผ้าพับหน้าเดียว คือ สามารถประยุกต์ใช้ได้ง่าย โดยที่ 1 พับนั้นสามารถประยุกต์ตัดไซร์ได้ตามต้องการ หรืองานเสื้อผ้าแฟชั่นที่มีการตัดต่อลวดลายหลายชิ้น และผ้าพับหน้าเดียวนี้เป็นผ้าที่หาได้ง่ายตามท้องตลาดและโรงงานส่วนใหญ่ก็ทำออกมาสู่ตลาด ทำให้ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อมาใช้งานตัดเย็บเสื้อยืด

ข้อเสียผ้าพับหน้าเดียว ก็คงจะเป็นเรื่องของเศษผ้าที่เสียไประหว่างตัด

Picture 089

Picture 095

ส่วนผ้าแบบถุงกลม Body Size นั้นก็มีข้อดีคือประหยัดเนื้อผ้า ผ้า 1 พับนั้นก็สามารถที่จะตัดออกมาเป็นจำนวนตัวได้มากกว่าผ้าแบบพับหน้าเดียวเพราะไม่ต้องเสียเศษผ้าจากการตัด ทั้งยังประหยัดด้ายเพราะด้านข้างลำตัวไม่มีตะเข็บ ทั้งลำตัวถูกทอออกมาเป็นกระสอบจากโรงงาน

แต่ข้อเสียคือผ้าแบบถุงกลม Body Size นั้นถูกทำออกมาตายตัวตามลักษณะการใช้งานจึงทำให้การประยุกต์ใช้เพื่อทำเสื้อผ้าแฟชั่นที่มีการตัดต่อหลากหลายเพื่อความสวยงามนั้น ทำได้ด้วยความลำบาก ทั้งรูปแบบการเย็บนั้นก็ต้องอาศัยความชำนาญที่เพิ่มขึ้นเพราะการเข้าวงแขนจะยากขึ้น จึงต้องอาศัยแรงงานที่มีประสบการณ์

 

โดยรวมแล้วผ้าแบบถุงกลม Body Size นั้นเหมาะสำหรับงานเสื้อยืดจำนวนมาก หรือห้างร้านที่ขายส่งเสื้อยืดเป็นจำนวนเยอะๆ และเป็นงานลักษณะโหลที่ตายตัว ส่วนคำถามจากเพื่อนๆ ที่ว่าผ้าแบบไหนดีกว่ากันนั้นก็แล้วแต่วัตถุประสงค์และการใช้งานของเพื่อนๆ ครับ

000-2021-01-16-ราคา-Cotton32

ความแตกต่างของผ้า Cotton 100 เบอร์ 20 และ 32

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเสื้อยืดผ้า Cotton 100% ส่วนใหญ่ในท้องตลาดบ้านเราจะมีอยู่กว่าร้อยละ 80 – 90 จะมีอยู่แค่ 2 เบอร์คือผ้า Cotton เบอร์ 32 และ ผ้า Cotton เบอร์ 20 (สำหรับผ้ายืด จริงๆ แล้วผ้า Cotton มีหลากหลายเบอร์และน้ำหนักมากกว่านี้แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมทำให้การผลิตออกสู่ตลาดน้อยตาม)

ความแตกต่างระหว่าง Cotton เบอร์ 32 และ ผ้า Cotton เบอร์ 20 ที่เป็นเส้นใยธรรมชาติคือความใหญ่ของเส้นด้ายที่ใช้ถักทอออกมาเป็นผืนผ้าสำหรับตัดเย็บเป็นเสื้อยืดสำหรับขายจำหน่ายเสื้อยืดทั่วไปในท้องตลาด โดยผ้าคอทต้อนหรือผ้าฝ้าย Cotton เบอร์ 20 จะมีขนาดเส้นด้ายที่ใหญ่กว่าเบอร์ 32 ทำให้องค์รวมของตัวเสื้อดูหนากว่าเล็กน้อย แต่การระบายอากาศและการซับเหงื่อก็ไม่ต่างกัน

Picture 077

การใช้ผ้าผ้าคอทต้อนหรือผ้าฝ้าย Cotton เส้นใยธรรมชาตินั้นจะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งานเป็นหลัก เช่นว่าหากต้องการสวมใส่ทั่วๆ ไป ก็ควรจะใช้เบอร์ 32 ซึ่งละเอียดกว่า หรือนำไปปักเพิ่มลวดลายหรือสกรีนนั้นหลายๆท่านก็เลือกที่จะใช้ผ้าผ้าคอทต้อนหรือผ้าฝ้าย Cotton เบอร์ 20 มากกว่าเพราะความหนาทำให้ทำงานง่ายขึ้น สีสกรีนไม่ทะลุทำให้ไม่เหนียวเหนอะหนะเวลาสวมใส่ หรือเวลาปักแล้วผ้าจะไม่ย่นเพราะเบอร์ 20 หนากว่า เป็นต้นฯ

ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกผ้าใช้ผ้าคอทต้อนหรือผ้าฝ้าย Cotton เบอร์ 20 หรือ 32 ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานแต่หากว่าเพื่อนๆ หรือท่านที่ไม่ค่อยจะได้คลุกคลีกับธุรกิจผ้าหรือเสื้อผ้าก็จะดูไม่ค่อยออกว่าอันไหนคือผ้าคอทต้อนหรือผ้าฝ้าย Cotton เบอร์ 20 หรือ 32 และหากจะให้ผู้เขียนแนะนำเป็นการส่วนตัวคือผ้าคอทต้อนหรือผ้าฝ้าย Cotton เบอร์ 20 จะดีกว่าผ้าคอทต้อนหรือผ้าฝ้าย Cotton เบอร์ 32 เพราะการใช้งานที่หลากหลายและง่ายต่อการนำไปประยุกต์หรือต่อยอดเพื่อเพิ่มราคา

หรือหากเพื่อนกำลังหัดเย็บเสื้อยืดอยู่ก็อยากจะแนะนำให้เป็นผ้าคอทต้อนหรือผ้าฝ้าย Cotton เบอร์ 20 เช่นกันเพราะว่าเส้นด้ายที่ใหญ่ ผ้าที่หนากว่าจะทำให้การเย็บง่ายกว่า ทำให้การเรียนรู้ง่ายกว่าการใช้ผ้าบางเย็บ (พวกไม่เย็บผ้าไม่รู้หรอก ผ้าบางเย็บยากขนาดไหน 555  -__-!!! แถมบางแล้วยืดด้วยนะ สุดยอด)

 

000-2021-01-16-ราคา-Cotton20

000-2021-01-16-ราคา-Cotton32

ประเภทของจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรมที่นิยมใช้ในงานเย็บเสื้อยืด

อย่างที่เราๆ ท่านๆ ทราบกันดีว่าอุตสาหกรรมเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มนั้นเป็นอุตสาหกรรมหลัก 1 ใน 4 สิ่งของจำเป็นสำหรับมนุษย์เรา และก็เป็นอุตสาหกรรมหลักอันดับต้นๆ ของประเทศไทยเราด้วยเช่นกัน

ในบรรดาสินค้าหลักๆ ของอุตสาหกรรมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มนี้ เสื้อยืดก็จัดได้ว่าเป็นสินค้าพื้นฐานที่ถูกผลิตออกมาอย่างมากที่สุดชนิดหนึ่ง เนื่องด้วยความนิยม การใช้งานที่เรียบง่าย ราคาที่เหมาะสม และการต่อยอดผลิตภัณฑ์ เช่น การทำให้ดูสวยงามขึ้นด้วยการสกรีน เพ้นท์ลวดลาย หรือปักรูป สัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่า จึงทำให้เสื้อยืดจัดได้ว่าเป็น 1 ในสินค้าหลักของกลุ่มอุตสาหกรรมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม

หากเพื่อนๆ อยากจะทำธุรกิจหรือการค้า หรือการให้บริการตัดเย็บเสื้อยืดนั้นก็ควรจะต้องศึกษารายละเอียดให้ดีก่อน เพราะการเปิดร้านให้บริการตัดเย็บเสื้อผ้า หรือเสื้อยืดนั้นมีรายละเอียดพอสมควร หากเพื่อนๆ ท่านไหนที่ทำเป็นอาชีพอยู่แล้วก็คงจะทราบถึงรายละเอียดต่างๆ เป็นอย่างดี หากท่านไหนที่พึ่งเริ่มต้น ผู้เขียนก็อยากแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวให้เพื่อน ประมาณว่าเล่าสู่กันฟัง เพื่อลดข้อสงสัย ลดปัญหาให้การค้าของเพื่อนๆ ดำเนินไปได้ง่ายขึ้น ไม่มากก็น้อย

สิ่งแรกที่ผู้เขียนอยากจะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังก็คือประเภทของจักรอุตสาหกรรมที่ใช้ในงานเย็บเสื้อยืด นั้นหลักๆ มีอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน คือ

1.จักรโพ้ง (หรือพ้ง) คือจักรที่ใช้เย็บด้านข้างของตัวเสื้อ วงแขน และรอบคอ จักรประเภทนี้ใช้งานมากที่สุดถึงร้อยละ 70 – 80 ของการเย็บเสื้อยืด โดยจักรโพ้งเองก็แบ่งได้เป็นหลายแบบอีกเช่นกัน เช่น จักรโพ้ง 3 เส้น, จักรโพ้ง 4 เส้น และจักรโพ้ง 5 เส้น (โพ้ง 1 เส้นก็มีนะ ที่เหลือด้ายขาด ฮ่ะๆ มุขช่างซ่อมจักรที่บ้าน -__-!!!) ค่าตัวจักรประเภทนี้ก็ประมาณ 2 – 3 หมื่นบาทขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อ ซึ่งส่วนใหญ่เสื้อยืดทั่วๆ ไป ใช้จักรโพ้ง 4 เส้น

Picture 011**

Picture 013
**
Picture 015
**
Picture 012
**
Picture 094
**
Picture 095
* ลักษณะงานที่ได้จากจักโพ้ง 4 เส้น *

 

2.จักรลา จะถูกใช้ 2 ลักษณะในการเย็บเสื้อยืด คือ 1. คือลาชายเสื้อและลาแขนเสื้อ หากเพื่อนมีนิสัยช่างสังเกตคงจะเห็นว่าแขนเสื้อหรือชายเสื้อด้านในจะเย็บเป็นแบบซิกแซกๆ ไปมาสลับกันเป็นฟันปลา นั่นเป็นลักษณะการใช้งานแบบหนึ่ง และส่วนแบบที่ 2 ก็คือการปรับลดจำนวนเข็มและปรับแต่งรายละเอียดเล็กน้อยสำหรับการเย็บทับรอยโพ้งบริเวณคอเสื้อ (บางเจ้าก็ทำบางเจ้าก็ไม่ทำ แต่ก็เริ่มจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับเสื้อยืดไปแล้วสำหรับการมีลาลูกโซ่บริเวณคอเสื้อ) ราคาค่าตัวจักรประเภทนี้ก็อยู่ราวๆ 3 หมื่น – 4 หมื่น (ซึ่งก็แล้วแต่รุ่น ยี่ห้ออีกเช่นกัน)

Picture 002**

Picture 004

**

Picture 003

**

Picture 091

* ลักษณะงานบริเวณชายเสื้อและแขนเสื้อของจักรลา *

Picture 096

* ลักษณะของลาลูกโซ่บริเวณคอเสื้อ (ไม่ได้ตั้งใจโฆษณานะ รูปมันติดมาเอง -__-!!!) *

3.จักรเข็มเดี่ยวที่เป็นมาตรฐานสำหรับงานเย็บ ทั่วๆ ไป แต่สำหรับการเย็บเสื้อยืดในปัจจุบันนั้นจะใช้จักรเข็มเดี่ยวเป็นส่วนน้อย คือใช้หลักจากโพ้งคอแล้วเย็บทับบางช่วง ใช้น้อยมากหรือบางท่านก็ไม่ใช้เลย

Copy of Picture 007**

Copy of Picture 009

**

Copy of Picture 008

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะเริ่มงานเย็บหรืออยากจะเปิดร้านให้บริการตัดๆ เย็บๆ เสื้อผ้าก็อยากจะให้ศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้ดีก่อนเริ่มทำครับ เพราะอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้านั้นมีรายละเอียดเยอะพอสมควร เป็นสังคมธุรกิจที่กว้าง (คู่แข่งเยอะ ว่างั้นเถอะ) แต่การเจริญเติบโตนั้นก็ไปกันไม่หยุดครับ บางท่านที่เปิดมานานเป็นที่รู้จักในแวดวงก็มีงานเย็บล้นมือ ทำไม่เคยทัน ไม่เคยพอก็มีให้เห็นกันเต็มตลาดเพราะความต้องการของผู้บริโภคนั้นมีไม่ขาดสายครับ นี่คือข้อดีของธุรกิจในภาคปัจจัย 4

หรือหากเพื่อนๆ ยังไม่พร้อมหรืองานล้นมือ หรือขี้เกียจลงทุนเย็บเอง ผู้เขียนก็มีบริการเย็บเสื้อยืดตัวละ 12-15 บาทครับ โดยคิดราคากันตามแบบสมเหตุสมผลตัวละ 12-15 บาท (ขึ้นอยู่กับรายละเอียดปลีกย่อย) หรือซื้อเป็นเสื้อยืดสีล้วนสำเร็จรูปราคาส่งก็ตัวละ 50 บาทครับ ฮ่ะๆ แอบขายซะเลย ^_^  (หรืออยากจะซื้อจักร ผู้เขียนก็ขายนะ  ฮ่ะๆ  ซื้อ 2 แถมคนขายด้วยเลยเอ้าาา!  -__-!!!)

 

000-2021-01-16-ราคา-Cotton20

วิธีตรวจสอบเนื้อผ้าเบื้องต้น

อุตสาหกรรมสิ่งทอ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มนั้นเป็น 1 ในอุตสาหกรรมหลักที่เกี่ยวพันกับปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตของมนุษย์เรา จึงเป็นเรื่องปกติที่การพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอจะรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการที่เป็นพื้นฐาน (และไม่พื้นฐาน) ของมนุษย์เรา หนึ่งในการพัฒนาที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอก็คือการพัฒนาเส้นใย จึงทำให้เส้นใยในการผลิตเสื้อผ้า สิ่งทอในตลาดปัจจุบันนั้นมากประเภทกว่าเดิม ซึ่งแต่เดิมนั้นมีเพียงหลักๆ คือเส้นใยที่ได้จากธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย (Cotton) และผ้าจากเส้นใยสังเคราะห์ที่ได้จากการแปรรูปน้ำมัน เช่น ผ้าโพลี (Polyester) กลายมาเป็นเส้นใยผสมต่างๆ นาๆ ที่มีความสลับซับซ้อน

สำหรับผู้เขียนและเพื่อนๆ ที่ทำงานหรือมีอาชีพเกี่ยวข้องกับกระบวนการทำเสื้อผ้าต่างๆ เช่น ตัดเย็บ สกรีนลวดลาย ปัก หรือแม้แต่การตัด การรู้จักเนื้อผ้าถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเนื่องจากเนื้อผ้าแต่ละชนิดก็ต้องการการปฏิบัติที่ต่างกันออกไป เช่นผ้าไม่ยืดอย่าง Cotton 100% หรือผ้าผสมต่างๆ เนื้อผ้าแบบ TC เนื้อผ้าแบบ TK ซึ่งเนื้อผ้าจะออกยืดๆ เนื่องจากมีส่วนผสมของผ้าใยสังเคราะห์มาปนด้วย หากเพื่อนๆ ที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสคลุกคลีกับแวดวงเสื้อผ้าก็คงจะดูลำบากว่าที่คนขายพูดๆ นั่นนะ Cotton แท้รึเปล่า ใส่สบายจริงรึเปล่า (ซึ่งบางคนจะแพ้ใยสังเคราะห์ เช่นผู้เขียนเป็นต้น -__-!!! เป็นโรคคุณหนู)

เพราะขนาดผู้เขียนเองที่คลุกคลีกับธุรกิจเสื้อผ้ามาเป็นเวลาหนึ่งทั้งจากงานประจำและงานอาชีพเสริมก็ยังมีผิดพลาดในเรื่องเนื้อผ้า เพราะเดี๋ยวนี้ตลาดเสื้อผ้าไปไวเหลือเกิน จนบางครั้งต้องจ่ายเงินซื้อของถูกในราคาแพง เกิดความเสียหายในการค้าขึ้นมาได้ เลยเกิดกังวลแทนเพื่อนๆ ที่อยากจะเข้ามาทำธุรกิจการค้าในอุตสาหกรรมสิ่งทอ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม

เป็นห่วงนะ พูดง่ายๆ!

ไม่อยากให้ถูกเอาเปรียบเหมือนผู้เขียนตอนเริ่มทำการค้าใหม่ๆ!

โดนคนอื่นเอาเปรียบนี่ มันน่าเจ็บใจนะเพื่อนๆ ว่าไหม!

เลยเอาวิธีตรวจสอบผ้าง่ายๆ เบื้องต้นที่ผู้เขียนชอบใช้มาแบ่งปันเพื่อนๆ เผื่อจะพอมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย

วิธีที่ผู้เขียนใช้ประจำก็คงจะหนีไม่พ้นการเผาผ้า   ฟังไม่ผิดนะ!

เผาผ้าจริงๆ

Picture 007** ตัดมานิดเดียวพอจะ ไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องถึงกับเผาทั้งตัวนะเตง -__-!!! **

** ถ้าไม่รู้จะตัดตรงไหน ก็บริเวณชายเสื้อด้านในละกันเนอะ! **

Picture 008

** เผาผ้าเพื่อดูองค์ประกอบนะ ไม่ใช่เล่นของ ไม่ต้องร่ายมนต์ -__-!!! **

Picture 010

** หากเป็นเส้นใยธรรมชาติ เส้นใยจะเป็นขี้เถ้าสลายได้ กลิ่นคล้ายกับกระดาษ **

การเผาผ้าเพื่อดูขี้เถ้านั้นหลักๆ ก็เพื่อดูว่าผ้าชนิดนั้นเป็นผ้าเส้นใยธรรมชาติ เช่น Cotton 100% หรือว่าใยสังเคราะห์ บางท่านดูชำนาญขนาดรู้อัตราส่วนผสมเลยก็มีนะ เคยเห็นเหมือนกัน ห้องแล็ปพิสูจน์ผ้านี่อายเลยนะ อะไรจะเก่งปานนั้น -__-!!!

(ส่วนผู้เขียนนั้นมือสมัครเล่น ไม่ต้องห่วงเลย -__-!!!)

การเผาเศษผ้าเพื่อดูขี้เถ้าและกลิ่นนั้น ดูง่ายๆ และหลักๆ คือหากผ้าชนิดนั้นเป็นเส้นใยธรรมชาติหรือจำพวกผ้าฝ้าย Cotton จะมีลักษณะขี้เถ้าจะไม่จับตัวเป็นก้อนและกลิ่นจะเหมือนการเผากระดาษ

แต่ถ้าเป็นประเภทเส้นใยสังเคราะห์นั้นขี้เถ้าจะจับตัวเป็นก้อนดำๆ แข็งๆ และกลิ่นจะคล้ายกับการเผาขวดพลาสติก กลิ่นจะแรงจะเบาขึ้นอยู่กับส่วนผสมเส้นใยสังเคราะห์ในผ้าชนิดนั้นๆ

 

แล้วทำไมต้องมานั่งเผาเล่นให้เสียเวลาหละ?

มันต่างกันตรงไหน?

ต่างกันที่ราคาและคุณสมบัติของเนื้อผ้านั้นแหละครับ

ผ้าเส้นใยสังเคราะห์จะมีราคาถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับผ้าเส้นใยธรรมชาติ

ในธุรกิจการค้าที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด เช่น ธุรกิจเสื้อผ้า การลดต้นทุนได้ถือเป็นสิ่งที่ได้เปรียบคู่แข่งนะครับ

อาจจะแค่ 1 หรือ 2 บาทแต่ก็สำคัญ

 

ด้วยรักและเคารพเพื่อนๆ ทุกท่าน

โอ

000-2021-01-16-ราคา-Cotton20

Tags
Cotton Cotton เบอร์ 20 Pattern Polyester ขายจำหน่ายเสื้อยืด ขายส่งเสื้อยืด ขายเสื้อผ้า ขายเสื้อยืด คุณภาพ จักรลา จักรอุตสาหกรรม จักรเข็มเดี่ยว จักรโพ้ง ตัดเย็บเสื้อผ้า ตัดเย็บเสื้อยืด บริการเย็บเสื้อยืด ประหยัดด้าย ผ้าคอตต้อนเบอร์ 20 ผ้าคอตต้อนเบอร์ 32 ผ้าถุงกลม Body Size ผ้าฝ้าย ผ้าฝ้าย Cotton เบอร์ 20 ผ้าฝ้าย Cotton เบอร์ 32 ผ้าพับหน้าเดียว พิถีพิถัน รับตัดเย็บเสื้อผ้า ร้านขายผ้า ฤดูขายเสื้อยืด ลดต้นทุน สกรีนเสื้อยืด อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เนื้อผ้า เนื้อผ้าแบบ TC เนื้อผ้าแบบ TK เย็บเสื้อยืด เสื้อกล้าม เสื้อคอโปโล เสื้อผ้าแฟชั่น เสื้อยืด เสื้อยืดผ้า TK เสื้อยืดสีล้วนสำเร็จราคาส่ง เส้นใยธรรมชาติ เส้นใยสังเคราะห์ เอกลักษณ์